วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559
วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559
คุณธรรม-จริยธรรม ในการใช้อินเทอร์เน็ต
คุณธรรม-จริยธรรม ในการใช้อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานร่วมกันเป็นจำนวนมาก โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมีความแตกต่างกันทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เพศ และวัย ผู้ใช้จึงควรใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยความระมัดระวังและมีคุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
1.ด้านมารยาท ผู้ใช้งานควรระลึกเสมอว่าผู้ใช้งานทุกคนในอินเทอร์เน็ตคือมนุษย์ที่มีอารมณ์และความรู้สึกต่างๆเหมือนกับตนเอง ไม่ใช่เครื่องจักรหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งและทำงานอย่างอัตโนมัติ ผู้ใช้งานจึงควรยึดถือมารยาททั่วไปที่ปฏิบัติในการดำเนินชีวิต
2.ด้านภาษา ภาษาที่ใช้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ภาษาแรก คือ ภาษาท้องถิ่น เช่น ภาษาไทย ภาษาจีน ส่วนภาษาที่สอง คือ ภาษาอังกฤษ ซึ่งจัดเป็นภาษามาตรฐานสากลที่ใช้ร่วมกันทั่วโลก
3.ด้านความปลอดภัย เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นการใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานที่หลากหลาย ส่งผลให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นช่องทางในการก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดกฎหมายด้านต่างๆ
-บัญญัติ 10 ประการในการใช้งานคอมพิวเตอร์
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานร่วมกันเป็นจำนวนมาก โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมีความแตกต่างกันทั้งด้านเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เพศ และวัย ผู้ใช้จึงควรใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยความระมัดระวังและมีคุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
1.ด้านมารยาท ผู้ใช้งานควรระลึกเสมอว่าผู้ใช้งานทุกคนในอินเทอร์เน็ตคือมนุษย์ที่มีอารมณ์และความรู้สึกต่างๆเหมือนกับตนเอง ไม่ใช่เครื่องจักรหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งและทำงานอย่างอัตโนมัติ ผู้ใช้งานจึงควรยึดถือมารยาททั่วไปที่ปฏิบัติในการดำเนินชีวิต
2.ด้านภาษา ภาษาที่ใช้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ภาษาแรก คือ ภาษาท้องถิ่น เช่น ภาษาไทย ภาษาจีน ส่วนภาษาที่สอง คือ ภาษาอังกฤษ ซึ่งจัดเป็นภาษามาตรฐานสากลที่ใช้ร่วมกันทั่วโลก
3.ด้านความปลอดภัย เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นการใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานที่หลากหลาย ส่งผลให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นช่องทางในการก่ออาชญากรรมหรือกระทำผิดกฎหมายด้านต่างๆ
-บัญญัติ 10 ประการในการใช้งานคอมพิวเตอร์
1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่น เช่น ไม่ควรโพสต์ข้อความกล่าวหาบุคคลอื่นในเว็บบอร์ดให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ไม่ควรโพสต์รูปอนาจาร
2. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์รบกวนผู้อื่น เช่น เปิดฟังเพลงด้วยคอมพิวเตอร์ หรือ เล่นเกมรบกวนผู้อื่นที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
3. ต้องไม่เปิดดูไฟล์ของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต เช่น แอบเปิดอ่านอีเมลของเพื่อน
4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ในการโจรกรรมข้อมูล ข่าวสาร เช่น การแอบเจาะระบบเพื่อขโมยข้อมูลการค้าของบริษัท ขโมยรหัสผ่านบัตรเครดิต
5. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานเท็จ เช่น การแอบเจาะระบบเพื่อเปลี่ยนแปลงคะแนน
6. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ในการคัดลอก หรือ ใช้โปรแกรมที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ดาวน์โหลดโปรแกรมที่มีลิขสิทธิ์มาใช้ โดยมีโปรแกรมแก้ไขเพื่อให้ใช้งานได้
7. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ในการ ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์ เช่น ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ หรือ ไม่ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าใช้
8. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อนำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
9. ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดจากโปรแกรมที่ตัวเองพัฒนาขึ้น
10. ต้องใช้คอมพิวเตอร์ โดยเคารพกฎ ระเบียบ กติกา และมารยาทของสังคมนั้น
ประวัติอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยจะเป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องจากทั่วโลกมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ทั่วโลก ในการติดต่อกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องมีการระบุว่า ส่งมาจากไหน ส่งไปให้ใครซึ่งต้องมีการระบุ ชื่อเครื่อง (คล้ายกับเลขที่บ้าน) ในอินเทอร์เน็ตใช้ข้อตกลงในการติดต่อที่เรียกว่า TCP/IP (ข้อตกลงที่ทำให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันได้) ซึ่งจะใช้สิ่งที่เรียกค่า "ไอพี-แอดเดรส" (IP-Address) ในการระบุชื่อเครื่องจะไม่มีเบอร์ที่ซํ้ากันได้

ระบบการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ต
ประวัติความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต กำเนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยองค์กรทางทหาร ของสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า ยู.เอส.ดีเฟนซ์ ดีพาร์ทเมนท์ ( U.S. Defence Department ) เป็นผู้คิดค้นระบบขึ้นมา มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้มีระบบเครือข่ายที่ไม่มีวันตายแม้จะมีสงคราม ระบบการสื่อสารถูกทำลาย หรือตัดขาด แต่ระบบเครือข่ายแบบนี้ยังทำงานได้ซึ่งระบบดังกล่าวจะใช้วิธีการส่งข้อมูลในรูปของคลื่นไมโครเวฟ ฝ่ายวิจัยขององค์กรจึงได้จัดตั้งระบบเน็ตเวริ์กขึ้นมา เรียกว่า "ARPAnet" ย่อมาจากคำว่า "Advance Research Project Agency net" ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมในหมู่ของหน่วยงานทหาร องค์กร รัฐบาล และสถาบันการศึกษาต่างๆ เป็นอย่างมาก
การเชื่อมต่อในภาพแรกแบบเดิม ถ้าระบบเครือข่ายถูกตัดขาด ระบบก็จะเสียหายและทำให้การเชื่อมต่อขาดออกจากกัน แต่ในเครือข่ายแบบใหม่ แม้ว่าระบบเครือข่ายหนึ่งถูกตัดขาด เครือข่ายก็ยังดำเนินไปได้ไม่เสียหาย เพราะโดยตัวระบบก็หาช่องทางอื่นเชื่อมโยงกันจนได้ในระยะแรก เมื่อ ARPAnet ประสบความสำเร็จ ก็มีองค์กรมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้ความสนใจเข้ามาร่วมในโครงข่ายมากขึ้น โดยเน้นการรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) ระหว่างกันเป็นหลัก ต่อมาก็ได้ขยายการบริการไปถึงการส่งแฟ้มข้อมูลข่าวสารและส่งข่าวสารความรู้ทั่วไป แต่ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิชย์ เน้นการให้บริการด้านวิชาการเป็นหลัก
ปี พ.ศ. 2523 คนทั่วไปเริ่มสนใจอินเทอร์เน็ตมากขึ้น มีการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในเชิงพาณิชย์ มีการทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต บริษัท ห้างร้านต่างๆ ก็เข้าร่วมเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559
Computer Network
ความหมายและประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) คือ การนำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกัน ทั้งระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ โดยเชื่อมต่อผ่านตัวกลางเพื่อจุดประสงค์ในการใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่างๆร่วมกัน ทำให้เกิดประโยชน์ 4 ด้านต่างๆ ดังนี้
-เครือข่ายแพน (PAN: Personal Area Network) คือ เทคโนโลยีการเข้าถึงไร้สายในพื้นที่เฉพาะส่วนบุคคล โดยมีระยะทางไม่เกิน 1 เมตร และมีอัตราการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงมาก (สูงถึง 480 Mbps) ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้กันแพรหลายและเป็นระบบการติดต่อสื่อสารไร้สายส่วนบุคคล
1.การเชื่อมต่อแบบใช้สาย ปัจจุบันนิยมเชื่อมต่อผ่านช่องยูเอสบีพอร์ต (USB Port) จากคอมพิวเตอร์ไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) คือ การนำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกัน ทั้งระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ โดยเชื่อมต่อผ่านตัวกลางเพื่อจุดประสงค์ในการใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่างๆร่วมกัน ทำให้เกิดประโยชน์ 4 ด้านต่างๆ ดังนี้
- การทำงานเป็นกลุ่ม = เครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ส่งผลให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นๆ สามารถติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันได้
- การจัดการข้อมูล = เครือข่ายคอมพิวเตอร์ส่งเสริมจัดการข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์ค้นหา คัดลอก ตัด วาง และเปิดได้
- การใช้ทรัพยากรร่วมกัน = เครือข่ายคอมพิวเตอร์นอกจากส่งเสริมการทำงานเป็นกลุ่มและช่วยในการจัดข้อมูลแล้ว ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ยังสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ร่วมกันได้
- การทำงานระยะไกล = เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วโลก ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ เพียงแต่มีคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเท่านั้น
-เครือข่ายแพน (PAN: Personal Area Network) คือ เทคโนโลยีการเข้าถึงไร้สายในพื้นที่เฉพาะส่วนบุคคล โดยมีระยะทางไม่เกิน 1 เมตร และมีอัตราการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงมาก (สูงถึง 480 Mbps) ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้กันแพรหลายและเป็นระบบการติดต่อสื่อสารไร้สายส่วนบุคคล
1.การเชื่อมต่อแบบใช้สาย ปัจจุบันนิยมเชื่อมต่อผ่านช่องยูเอสบีพอร์ต (USB Port) จากคอมพิวเตอร์ไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

2.การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ปัจจุบันนิยมเชื่อมต่อผ่านสัญญาณอินฟราเรดและบลูทูท
.jpg)
-เครือข่ายแลน (LAN: Local Area Network) หรือเครือข่ายท้องถิ่น คือ การเชื่อต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องขึ้นไปในระยะทางใกล้ๆ ที่มีพื้นที่จำกัดไม่เกิน 10 กิโลเมตร โดยมีจุดประสงค์เพื่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้งาน และใช้ข้อมูลหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ร่วมกันในกลุ่มเล็กๆ หรือในองค์กรเดียวกัน
การเชื่อมต่อเครือข่ายเเลนทำได้ในรูปของเครือข่ายเเบบไร้สายมี 2 ประเภท คือ เครือข่ายเเบบเพียร์ทูเพียร์ และเครือข่ายไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์
1.เครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer To Peer) มักมีผู้ใช้งานได้ไม่เกิน 10 คน ซึ่งนิยมเรียกกลุ่มเครือข่ายในลักษณะนี้ว่า "เวิร์กกรุ๊ป" (Workgroup)
2.เครือข่ายแบบไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ (Client Server) การเชื่อมต่อในลักษณะนี้จะแยกการทำงานของคอมพิวเตอร์เป็น 2 ลักษณะ คือ คอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพสูงสุด คือ เครื่องเซิร์ฟเวอร์หรือเครื่องแม่ข่าย และคอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพต่ำหรือคอมพิวเตอร์ที่ไม่สามารถประมวลผลได้เลย คือ เครื่องไคลเอนต์หรือเครื่องลูกข่าย

-เครือข่ายแมน (MAN: Metropolitan Area Network) หรือเครือข่ายเชื่อมโยงภายในเมืองเดียวกัน คือ ระบบเครือข่ายที่มีการเชื่อมต่อกันในระหว่างที่กว้างใหญ่ ครอบคลุมระยะทางเป็น 100 กิโลเมตร ที่มีการติดต่อกันในระยะที่ไกลกว่าระบบแลน (LAN) และใกล้กว่าระบบแวน (WAN) เป็นการติดต่อระหว่างเมือง

-เครือข่ายแวน (WAN: Wide Area Network) คือ เครือข่ายระยะทางไกล เครือข่ายระดับประเทศหรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและยังเป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด

สรุป
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทุกประเภทสามารถนำมาเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายแวนได้ ทั้งในรูปแบบของการเชื่อมต่อแบบใช้สายผ่านสายโทรศัพท์ และการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการด้วยไวไฟ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)